วันอังคารที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ก่อนหน้านี้ Facebook เคยเปิดตัวฟีเจอร์ที่ชื่อว่า M Translations ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งมีคุณสมบัติแปลภาษาต่างประเทศอัตโนมัติ แต่ยังจำกัดให้ใช้เฉพาะกับ Marketplace ล่าสุด Facebook เตรียมนำฟีเจอร์ดังกล่าวมาใช้ในแอปแชทอย่าง Messenger ด้วย โดยจะเริ่มใช้ได้กับผู้ใช้ในสหรัฐอเมริกาและเม็กซิโกก่อนเป็นประเทศแรก
ทั้งนี้ คุณสมบัติของเครื่องมือการแปลภาษาอัตโนมัตินั้นเป็นส่วนหนึ่งของฟีเจอร์ M Translations ซึ่งจะใช้ระบบ AI มาช่วยประมวลผลในการแปลด้วย เบื้องต้นจะรองรับการแปลจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาสเปนและภาษาสเปนเป็นภาษาอังกฤษก่อน โดยการเคลื่อนไหวดังกล่าวก็เป็นที่แน่ชัดว่า Facebook พยายามต่อยอด Messenger ให้มีศักยภาพมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะธุรกิจอีคอมเมิร์ซและการทำธุรกรรมทางการเงินผ่านแอปแชท
Facebook Messenger อัพเลเวลใหม่แปลภาษาให้อัตโนมัติ
https://www.beartai.com/news/itnews/255378

วันอังคารที่ 19 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Instagram ตัดสินใจถอดฟีเจอร์แจ้งเตือนเมื่อมีคนแคปหน้าจอ

ในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Instagram ได้ปล่อยฟีเจอร์ใหม่แจ้งเตือนเจ้าของบัญชีเมื่อมีผู้ใช้งานแคปหน้า Story อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนการทดสอบหรือ Beta นั่นเองครับ
ล่าสุด Instagram ได้ถอดฟีเจอร์แจ้งเตือนเจ้าของ Story เมื่อมีผู้ใช้งานแคปหน้าจอเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะไม่มีการปล่อยออกมาอีกครับ งานนี้ถ้าจะลงอะไรใน Story อาจจะต้องระวังเสียหน่อย เพราะคนอื่นสามารถแคปได้โดยที่เราไม่ทราบอะไรเลย

วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2561

ดีแทค และ บมจ.กสท โทรคมนาคม (กสท.) มีหน้าที่ตามประกาศคณะกรรมการการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในการนำคลื่นความถี่ 800 เมกะเฮิร์ตซ์ (MHz) และ 1800 MHz มาให้บริการกับลูกค้า....... อ่านต่อได้ที่ : 
   https://www.posttoday.com/it/553681

วันอังคารที่ 5 มิถุนายน พ.ศ. 2561

Apple เผยถึงประเด็นสำคัญภายในงานประชุมนักพัฒนาระดับโลก (Worldwide Developers Conference, WWDC) ที่จะเน้นไปในเรื่องการดูแลสุขภาพมากขึ้น โดย Apple ทำการประกาศลงบนเว็บไซต์ของตนเองว่า ตั้งแต่ช่วงฤดูใบไม้ร่วง (เดือนกันยายนเป็นต้นไป) ทางบริษัทจะเริ่มเปิดเผยข้อมูลประวัติสุขภาพ (Health Records) ของผู้ใช้ไปยังแอพฯ อื่นๆ ของ iOS ผ่านทาง API รูปแบบใหม่ (ช่องทางการเชื่อมต่อข้อมูลระหว่างผู้ใช้งานกับเซิร์ฟเวอร์) ซึ่งฟีเจอร์นี้จะทำให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลด้านสุขภาพจากโรงพยาบาลหรือคลินิคมากกว่า 500 แห่ง และยังสามารถแชร์ข้อมูลเหล่านั้นไปยังแอพพลิเคชั่นอื่นๆ ได้ เพื่อการปรับปรุงเรื่องการดูแลสุขภาพโดยรวมให้ดีขึ้น
การแชร์ข้อมูลด้านสุขภาพมักจะสร้างความกังวลใจให้ผู้ใช้ ทางบริษัทจึงจัดการเรื่องนี้ โดยข้อมูลส่วนตัวของผู้ที่เพิ่งเริ่มต้นใช้งานจะไม่ถูกแชร์ไปยังแอพฯ อื่นๆ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากผู้ใช้ อีกทั้งข้อมูลประวัติด้านสุขภาพจะถูกเข้ารหัสและจัดเก็บไว้ภายในตัวเครื่องโทรศัพท์เพื่อความปลอดภัยของข้อมูล แต่เมื่อผู้ใช้งานเลือกที่จะแชร์ข้อมูลประวัติสุขภาพไปยังแอพพลิเคชั่นที่มีความน่าเชื่อถือ ข้อมูลจะถูกส่งตรงจาก HealthKit (ระบบเก็บข้อมูลด้านสุขภาพ) ไปยังแอพฯ เหล่านั้น โดยไม่ถูกส่งผ่านไปยังเซิร์ฟเวอร์ของ Apple
Apple ยังเผยว่าระบบนี้จะเป็นประโยชน์ สำหรับการติดตามการรักษา หรือติดตามเรื่องการกินยา โดย Medisafe (แอพฯ ช่วยจัดการเรื่องการกินยา) จะเป็นแอพฯ แรกๆ ในการเชื่อมต่อกับฟีเจอร์รูปแบบนี้ ทำให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงข้อมูลรายการยา รับรู้การแจ้งเตือน โดยไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลด้วยตัวเองลงในแอพพลิเคชั่น นอกจากนี้ การจัดการโรคโดยนำระบบนี้มาใช้ถือเป็นประโยชน์ที่จะสามารถปรับเปลี่ยนการแนะนำเรื่องการดูแลสุขภาพตามข้อมูลประวัติสุขภาพของผู้ใช้ อีกทั้งยังมีแอพฯ ที่เกี่ยวกับการวิจัยด้านการแพทย์ที่จะสามารถใช้ข้อมูลด้านสุขภาพซึ่งไม่ระบุชื่อเจ้าของข้อมูล เพื่อประโยชน์ด้านการวิจัยในห้องปฏิบัติการ






https://news.thaiware.com/

ทีมวิจัยจากอเมริกา  ได้เปิดเผยรูปแบบใหม่ที่แฮกเกอร์ใช้ในการล้วงข้อมูลและพาสเวิร์ดต่างๆ ผ่านรูปแบบการโจรกรรมที่เรียกว่า Thermanator จะเป็นการ...